ลูกยกที่ดินคืนแม่ประนอม ยังไม่จบ!เรื่องหุ้น-หนี้20ล. | เดลินิวส์
ลูกยกที่ดินคืนแม่ประนอม ยังไม่จบ!เรื่องหุ้น-หนี้20ล. | เดลินิวส์
„ลูกยกที่ดินคืนแม่ประนอม ยังไม่จบ!เรื่องหุ้น-หนี้20ล. ศึกมรดก "น้ำพริกเผาแม่ประนอม" เคลียร์ยกแรก ลูกสาวคนโตหอบโฉนดที่ดิน 3 แห่ง กว่า 10 แปลงให้แม่ พร้อมให้ใช้เดือนละ 1 ล้านบาท ส่วนข้อสรุปเรื่องหุ้น และหนี้ 20 ล้าน ยังไม่ได้ข้อสรุป หากลงตัวเตรียมทำสัญญายอมความ-ถอนฟ้องทุกคดี วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2559 เวลา 21:22 น. เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 เม.ย. ที่ห้องพิจารณา 509 ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถนนสวนผัก ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่ขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง ในคดีแพ่ง หมายเลขดำ ส.558/2558 ที่นางประนอม แดงสุภา และ น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต และนายสุชาติ ภาษาประเทศ สามีนางศิริพร เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องเพิกถอนนิติกรรม ถือกรรมสิทธิ์แทนโดยคืนทรัพย์ และเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์รวม 561,950,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยวันนี้นางประนอมและนางศิริพร ไม่ได้เดินทางมา มีเพียงทนายความทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางมาศาล ก่อนการพิจารณาคดี นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความนางประนอม กล่าวว่า เรื่องการกลับเข้าไปอยู่บ้านหลังเดิมของแม่ประนอม ซึ่งคือบ้านลูกสาวคนโต ล่าสุดยังไม่ได้กลับไป เนื่องจากแม่ประนอม สบายใจที่จะพักอาศัยบ้านลูกสาวคนรองมากกว่า ต่อมาทนายความทั้งสองได้ร่วมแถลงต่อศาลว่า โจทก์และจำเลยเคยเจรจาตกลงกันที่วังวรดิศ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยโจทก์ที่ 1 จะยื่นคำร้องขอถอนฟ้องในคดีนี้ และคดีอาญาที่ศาลจังหวัดนครปฐม แต่มีการตกลงกันจะแบ่งและแลกเปลี่ยนทรัพย์มรดกก่อน ประกอบด้วยที่ดิน 3 แห่ง รวม 10 กว่าแปลง คือ ที่หมู่บ้านเศรษฐกิจ กรุงเทพฯ ที่ดิน จ.ขอนแก่น และที่ดิน จ.นครราชสีมา โดยจำเลยที่ 1 ขอมอบเงินเดือนให้กับนางประนอม เดือนละ 1 ล้านบาท ทุกเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.59 ขณะที่ทนายความโจทก์ที่ 1 แถลงต่อว่าโจทก์ที่ 1 ต้องการทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลก่อน จึงจะถอนฟ้องและยังมีทรัพย์บางรายการที่ต้องการเจรจากับจำเลย ได้แก่ หุ้นที่บริษัทน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม 18,200 หุ้น และหนี้สินที่นางประนอมกู้มาเปิดร้านอาหาร 20 ล้านบาท ซึ่งทนายจำเลยแถลงว่า ในการเจรจาครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มีเงื่อนไขในส่วนนี้ แต่จะนำไปหารือกับนางศิริพรก่อน หากได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงต่อศาลนัดหน้า ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีระหว่างมารดาและบุตร หากมีการตกลงกันได้ก็จะเป็นเรื่องดีกว่าการสืบพยาน จึงให้เลื่อนนัดไต่สวนออกไปในวันที่ 30 พ.ค. นี้ เวลา 13.30 น. ภายหลัง นายทวิชา หวังโพคา ทนายความนางศิริพร กล่าวว่า วันนี้ได้นำโฉนดที่ดินมาแสดงต่อศาล เพื่อให้เห็นว่าพร้อมที่จะมีการแลกเปลี่ยนทรัพย์เกี่ยวกับที่ดินกว่า 10 แปลง ที่นางศิริพรได้ซื้อมา ขณะที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ และจะเสนอเงินเดือนให้นางประนอมไว้ใช้จ่ายอีกเดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งข้อตกลงนี้ไม่เกี่ยวกับหุ้นของบริษัทและหนี้สินอีก 20 ล้านบาท บุคคลที่นำเรื่องนี้ไปพูด เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในการไกล่เกลี่ยที่วังวรดิศ และเท่าที่เห็นในบันทึกข้อตกลงก็มีเพียงที่ดินและเงินเดือน ส่วนกรณีนางประนอม ต้องการหุ้นและให้นางศิริพร ชดใช้หนี้ 20 ล้านบาทให้ด้วยนั้น วันนี้ได้ยืนยันกับศาลว่า การตกลงในครั้งก่อนไม่มีเงื่อนไขนี้ ซึ่งศาลเห็นว่ายังมีข้อเสนอเพิ่มเติมบางส่วนของโจทก์ จึงให้คู่ความกลับไปคุยกันก่อนและนัดอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ค.นี้ หากตกลงกันได้ก็ให้ทำบันทึกและโอนโฉนดที่ดินได้ทันที แต่หากยังพูดคุยไม่ลงตัว ก็ให้นัดอีกครั้งและกำชับให้นำคู่ความมาศาลด้วย ด้านนายพิสิษฐ์ ทนายนางประนอม กล่าวว่า การเจรจาในวันนี้มีเพียงเรื่องหุ้นและหนี้สิน 20 ล้านบาท ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา นางประนอม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเจรจาว่า ลูกสาวจะคืนหุ้นให้ แต่ที่ทนายจำเลยอ้างว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการเจรจา เข้าใจว่าอาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะวันนั้นรายละเอียดที่คุยค่อนข้างเยอะ ศาลจึงให้ทนายความประสานคู่ความเจรจากันว่าส่วนไหนสามารถยืดหยุ่นกันได้บ้าง ในฝ่ายตนเองหากนางประนอมพึงพอใจในส่วนใด ก็จะทำตามความต้องการ ทนายจะไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องตัวทรัพย์ แต่จากวันนี้ทิศทางเป็นไปด้วยดี หากตกลงกันได้ในเรื่องนี้ ก็จะทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาล และจะถอนฟ้องทั้งสองคดีต่อไป สำหรับโจทก์ที่ 2 ศาลก็ให้ไปเจรจากับฝ่ายจำเลยด้วย หากยุติเรื่องได้ทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่ดี หลังจากนี้จะกลับไปคุยกับลูกความในเรื่องทรัพย์ที่ตกลงกันได้แล้ว ซึ่งเหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อย แม่ลูกน่าจะคุยกันได้.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/regional/391278
EmoticonEmoticon
Note: Only a member of this blog may post a comment.